1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
2. ทิพพโสต หูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ ญาณที่ให้ทายใจคนอื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสติ ญาณที่ทำให้ระลึกชาติได้
5. ทิพพจักขุ ตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ ญาณที่ทำให้อาสวะสิ้นไป,
5 อย่างแรกเป็นโลกียอภิญญา ข้อสุดท้ายเป็นโลกุตตรอภิญญา
จาก: พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
http://84000.org/tipitaka/dic/
(*** Blogger Ekk - อภิญญา 5 ข้อแรก บุคคล แม้เป็นปุถุชน ผู้มีความพากเพียร ไม่ลดละในการบำเพ็ญ ก็สามารถลุถึงได้ แต่ก็อาจเสื่อมถอยลงไปได้ในภายหลัง หากฌานที่เคยได้นั้นเสื่อมลง ซึ่งศัตรู หรือข้าศึกแห่งฌาน ได้แก่ นิวรณ์ 5, กามคุณ 5 (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) เป็นต้น เว้นเสียแต่บุคคลนั้นสามารถสำเร็จอาสวักขยญาณ ข้ามพ้นภูมิปุถุชน สู่ภูมิอรหันตบุคคล จึงจะสามารถรักษาอภิญญาอื่นๆ ทั้ง 5 ข้อแรก ได้ยั่งยืนตลอดไป)>
บางตอนจาก บทนำ ในหนังสือทิพยอำนาจ โดยพระอริยคุณาธาร (ปุสโส เส็ง, ป.ธ. 6)
"...ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอำนาจที่ว่านี้และเรียกชื่อว่า ทิพพจักขุ ตาทิพย์, ทิพพโสต หูทิพย์ คล้ายจะยืนยันว่ามีอำนาจทิพย์ในร่างกายมนุษย์นี้ด้วย แต่นักศึกษาทางพระพุทธศาสนาโดยส่วนมากมองข้ามไป ไม่ได้สนใจศึกษาเพื่อพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ เมื่อมีใครพูดถึงเรื่องนี้ก็มักตำหนิหาว่างมงาย เชื่อในสิ่งซึ่งไม่อาจเป็นได้ หาได้เฉลียวใจไม่ว่า พระบรมศาสดาเป็นผู้ทรงแสดงไว้ ทั้งปรากฏในพระประวัติของพระองค์ว่าทรงสามารถใช้อำนาจนั้นได้อย่างดีด้วย น่าที่เราพุทธศาสนิกชนจะพึงศึกษาค้นคว้าพิสูจน์ความจริงกันดูบ้าง จะเป็นสิ่งไร้สาระเทียวหรือ ถ้าจะทำการพิสูจน์วิชาหูทิพย์ ตาทิพย์ ให้ทราบความจริงอย่างมีหลักฐาน ข้าพเจ้า (พระอริยคุณาธาร) กลับเห็นว่า จะเป็นทางช่วยให้พระพุทธศาสนาเด่นขึ้นอีก เพราะสิ่งใดที่พระบรมศาสดาตรัสไว้ ซึ่งปรากฏมีอยู่ในพระไตรปิฎก หากเราพิสูจน์ให้เห็นจริงว่า สิ่งนั้นเป็นได้ตามที่ดำรัสไว้ ก็ย่อมเป็นพยานแห่งพระปัญญาของพระบรมศาสดา..."
"... อำนาจลึกลับมหัศจรรย์ เกินวิสัยสามัญมนุษย์นั้น แม้มิได้ตรัสเรียกว่า ทิพยอำนาจ โดยตรงก็ตาม ก็ได้ทรงกล่าวถึงอำนาจนั้นไว้แล้วอย่างพร้อมมูล และตรัสบอกวิธีปลูกสร้างอำนาจนั้นขึ้นใช้อย่างดีด้วย เป็นการพอเพียงที่เราจะสันนิษฐานว่า พระบรมศาสดาได้ทรงบรรลุอำนาจนั้นทุกประการ และทรงใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลมาแล้ว ในสมัยยังทรงพระชนม์อยู่..."
คำชี้แจง จาก Blogger Ekk
อันเนื่องมาจาก เธอ...คนนั้น
ผู้เป็นบุคคลอันเป็นที่รักและเป็นกัลยาณมิตรคนสำคัญยิ่งของผม
เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ผมเกิดความสนใจจริงจัง ได้ทำการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเรื่องอภิญญา ยิ่งได้อ่านได้รู้มากขึ้นๆ ก็ทำให้ผมเกิดความซาบซึ้งศรัทธาต่อความสมบูรณ์ บริบูรณ์ของหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งต่อความรู้ (วิชชา) ในพระพุทธศาสนา ภายใต้ร่มเงาแห่งพระโพธิญาณ อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ชอบแล้วด้วยดี
โดยผมได้ทำการคัดลอกเนื้อหามาจากหนังสือ 3 เล่มนี้เป็นหลัก คือ
1) ทิพยอำนาจ โดยพระอริยคุณาธาร (ปุสฺโส เส็ง, ป.ธ. 6)
2) คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน และ 3) อภิญญา โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ซึ่งบางส่วนที่นอกเหนือจากที่พิมพ์ด้วยตนเอง ผมคัดลอกมาจากเว็บอีกชั้นหนึ่ง ได้แก่
http://www.palungjit.com
http://www.dhammajak.net
ทั้งนี้เนื้อหาที่คัดลอกมานี้ ผมได้จัดทำขึ้นเพื่อส่งให้ เธอ คนนั้น ได้อ่านเป็นตอนๆ ทางอีเมล จึงเป็นเนื้อหาเพียงเพื่อให้เข้าใจในหลักการสำคัญ และรายละเอียดบางส่วนเท่าที่จำเป็น เนื่องจากไม่สามารถคัดลอกเนื้อหามาได้ทั้งหมด ดังนั้นหากผู้อ่านท่านใดเกิดความสนใจจริงจังในการปฏิบัติฝึกฝนเพื่ออภิญญา พึงศึกษาโดยละเอียดจากหนังสือฉบับสมบูรณ์ ดังมีตัวอย่างตามรายชื่อหนังสือที่ได้อ้างอิงไว้ตอนท้ายของบทที่ 6 อาสวักขยญาณ
หลังจากรวบรวมเนื้อหาได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจึงมีความคิดในการบันทึกเนื้อหาดังกล่าวลงบนบล็อค Ekk's D-BOOK เพื่อความสะดวกในการอ่านทบทวนเนื้อหาหลัก เป็นการเฉพาะส่วนตัวของผมเอง และได้เพิ่มเติมเนื้อหาของบทที่ 6 อาสวักขยญาณ หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนใจใคร่รู้ในเรื่องนี้ตามสมควร
ด้วยความปรารถนาดี
Blogger Ekk
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น